ยินดีต้อนรับสู่ Naam's blog ค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บันทึกอนุทินครั้งที่ 16

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่นถิน
วันที่ 27 กันยายน 2556
ครั้งที่ 16 เวลาเรียน 13.10 – 16.40 น.

เวลาเข้าสอน 13.10 น. เวลาเข้าเรียน 13.10 น. เวลาเลิก 16.40 น.

วันนี้อาจารย์ให้ทำ Mind mapping
ความรู้ที่ได้เรียนมาทั้งหมด


ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางการสอนภาษาแบบธรรมชาติของเด็กปฐมวัย

       ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางการสอนภาษาแบบธรรมชาติโดยใช้แกนนำในหน่วยการสอนที่มีต่อความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย


ชื่อผู้แต่ง กนิษฐา ชูขันธ์ ปีที่ทำวิจัยสำเร็จ 2541 สถาบัน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร 


     แหล่งอ้างอิง : http://www.edu.chula.ac.th/thinking/document/1002/100201.pdf

     บทคัดย่อ : http://www.edu.chula.ac.th/thinking/document/1002/100202.pdf

     ทฤษฎี :http://www.edu.chula.ac.th/thinking/document/1002/100203.pdf

     นวัตกรรม : http://www.edu.chula.ac.th/thinking/document/1002/100204.pdf

     เครื่องมือวิจัย : http://www.edu.chula.ac.th/thinking/document/1002/100205.pdf


วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

บันทึกอนุทินครั้งที่ 15

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่นถิน
วันที่ 20 กันยายน 2556
ครั้งที่ 15 เวลาเรียน 13.10 – 16.40 น.

เวลาเข้าสอน 13.10 น. เวลาเข้าเรียน 13.10 น. เวลาเลิก 16.40 น.

วันนี้อาจารย์ให้ทำหน่วยการเรียนรู้
โดยกลุ่มของหนูทำเรื่อง ป.ปลาน่ากินจัง 








วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

บันทึกอนุทินครั้งที่ 14

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่นถิน
วันที่ 13 กันยายน 2556
ครั้งที่ 14 เวลาเรียน 13.10 – 16.40 น.

เวลาเข้าสอน 13.10 น. เวลาเข้าเรียน 13.10 น. เวลาเลิก 16.40 น.

วันนี้อาจารย์ให้แบ่งกลุ่ม 
แล้วให้แต่ละออกแบบมุมต่างๆในห้องเรียนของเด็กปฐมวัย
แล้วออกมานำเสนอ









วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

บันทึกอนุทินครั้งที่ 13

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่นถิน
วันที่ 6 กันยายน 2556
ครั้งที่ 13 เวลาเรียน 13.10 – 16.40 น.

เวลาเข้าสอน 13.10 น. เวลาเข้าเรียน 13.10 น. เวลาเลิก 16.40 น.

การจัดสภาพแวดล้อมเพื่องส่งเสริมประสบการณ์ทางภาษา
  • สร้างสภาพแวดล้อมให้เ็ด็กคุ้นเคยกับการใช้ภาษาอย่างมีความหมายและเป็นองค์รวม
  • เด็กได้ทำกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะทางภาษาโดยไม่เน้นเนื้อหาทางภาษา
หลักการ (หรรษา นิลวิเชียร, 2535)
  • สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ของเด็ก ส่งเสริมให้เด็กสำรวจปฏิบัติจริง เป็นผู้กระทำด้วยตนเอง เปิดโอกาสให้เด็กเป็นอิสระได้สังเกตและตั้งสมมติฐาน
  • สิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับบุคคลรอบข้าง เด็กควรได้มีการสื่อสารหลายทาง
  • สิ่งแวดล้อมที่เน้นความหมายมากกว่ารูปแบบ ควรยอมรับการสื่อสารของเด็กในรูปแบบต่างๆ โดยคำนึงถึงความหมายที่เด็กต้องการสื่อสารมากกว่าความถูกต้องทางไวยากรณ์
  • สิ่งแวดล้อมประกอบด้วยความหลากหลายทั้งด้านวาจาและไม่ใช่วาจา เด็กควรได้รับการมีปฏิสัมพันธ์หลายๆรูปแบบ

             มุมประสบการณ์ที่สนับสนุนการเรียนรู้และทักษะทางภาษา
  • มุมหนังสือ
  • มุมบทบาทสมมติ
  • มุมศิลปะ
  • มุมดนตรี ฯลฯ
     ลักษณะของการจัดมุมในชั้นเรียนเพื่องส่งเสริมทักษะทางภาษา
  • มีพื้นที่ให้เด็กสามารถทำกิจกรรมได้
  • เด็กรู้สึกผ่อนคลายเมื่ออยู่ในมุม
  • บริเวณใกล้เคียงมีอุปกรณ์ เครื่องเขียน เช่น ดินสอ สี กระดาษ กรรไกร กาว
  • เด็กมีส่วนร่วมในการออกแบบ

     มุมหนังสือ
  • มีชั้นวางหนังสือประเภทต่างๆที่เหมาะสมกับวัย
  • มีบรรยากาศที่สงบ อบอุ่น
  • มีพื้นที่ในการอ่านลำพัง และเป็นกลุ่ม
  • มีอุปกรณ์สำหรับเขียน


     มุมบทบาทสมมติ
  • มีสื่ออุปกรณ์ที่สามารถให้เด็กเข้าไปเล่นได้
  • มีพื้นที่เพียงพอ

     มุมศิลปะ
  • จัดอุปกรณ์ที่หลากหลาย เช่น สีเมจิก ดินสอ ยางลบ ตรายาง ซองจดหมาย ฯลฯ
  • กรรไกร กาว สำหรับงานตัดและปะติด
     มุมดนตรี
  • มีเครื่องดนตรีทั้งที่เป็นของเล่นและของจริง

วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

บันทึกอนุทินครั้งที่ 12

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่นถิน
วันที่ 30 สิงหาคม 2556
ครั้งที่ 12 เวลาเรียน 13.10 – 16.40 น.

เวลาเข้าสอน 13.10 น. เวลาเข้าเรียน 13.10 น. เวลาเลิก 16.40 น.

วันนี้อาจารย์ให้แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน
จากนั้นให้แต่ละกลุ่มออกแบบสื่อที่พัฒนาภาษาของเด็กปฐมวัย




บันทึกอนุทินครั้งที่ 11

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่นถิน
วันที่ 23 สิงหาคม 2556
ครั้งที่ 11 เวลาเรียน 13.10 – 16.40 น.

เวลาเข้าสอน 13.10 น. เวลาเข้าเรียน 13.10 น. เวลาเลิก 16.40 น.

วันนี้หนูไม่ได้ไปเรียน
เนื่องจากไปทำธุระที่ต่างจังหวัด

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บันทึกอนุทินครั้งที่ 10

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่นถิน
วันที่ 16 สิงหาคม 2556
ครั้งที่ 10 เวลาเรียน 13.10 – 16.40 น.


วันนี้อาจารย์ให้ทำสื่ออาเซียน โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม 









บันทึกอนุทินครั้งที่ 9

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่นถิน
วันที่ 9 สิงหาคม 2556
ครั้งที่ 9 เวลาเรียน 13.10 – 16.40 น.


วันนี้หนูไม่ไปเรียน เนื่องจากเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด

วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บันทึกอนุทินครั้งที่ 8

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่นถิน
วันที่ 2 กรกฎาคม 2556
ครั้งที่ 8 เวลาเรียน 13.10 – 16.40 น.


ไม่มีการเรียนการสอน
เนื่องจากสอบกลางภาค

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บันทึกอนุทินครั้งที่ 7

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วันที่ 26 กรกฎาคม 2556
ครั้งที่ 7 เวลาเรียน 13.10 – 16.40 น.
เวลาเข้าสอน 13.10 น. เวลาเข้าเรียน 13.10 น. เวลาเลิก 16.40 น.

ก่อนเรียนอาจารย์ให้วาดภาพอะไรก็ได้คนละ 1 ภาพ แล้วนำภาพของแต่ละคนออกมาเล่าเป็นเรื่องราวต่อๆกัน


การประเมิน

     1.ใช้เครื่องมือในการประเมินที่หลากหลาย
    
2.เน้นความก้าวหน้าของเด็ก
          - บันทึกสิ่งที่เด็กทำได้
          - ทำให้สามารถส่งเสริมเด็กให้เกิดพัฒนาการทางภาษาในระดับที่สูงขึ้น
     3.ประเมินจากบริบทที่หลากหลาย
     4.ให้เด็กมีโอกาสประเมินตนเอง
     5.ครูให้ความสนใจทั้งกระบวนการและผลงาน
     6.ประเมินเด็กเป็นรายบุคคล




ตัวอย่างกิจกรรม
     -เขียนตามคำบอกของเด็ก
     -ช่วยเด็กเขียนบันทึก
     -อ่านคำคล้องจ้อง
     -ร้องเพลง
     -อ่านนิทานร่วมกัน








วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บันทึกอนุทินครั้งที่ 6

บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤษ แจ่มถิ่น
วัน/เดือน/ปี 19 กรกฎาคม 2556
ครั้งที่ 6 เวลาเรียน 13.10-16.40
เวลาเข้าสอน 13.10 เวลาเข้าเรียน 13.10 เวลาเลิกเรียน 16.40




แนวทางการจัดประสบการณ์

1. การจัดประสบการณ์ทางภาษาที่เน้นทักษะทางภาษา(Skill Approch)
- ให้เด็กได้รู้จักส่วนย่อยๆของภาษา
- การประสมคำ
- ความหมายของคำ
- นำคำมาประกอบเป็นประโยค
- การแจกรูปสะกดคำ การเขียน
การแจกรูปสะสมคำ ไม่สอดคล้องกับะรรมชาติ
Kenneth Goodman
- เสนอแนวทางการสอนภาษาแบบธรรมชาติ
- มีความเชื่อมโยงระหว่างภาษากับความคิด
- แนวทางการสอนมีพื้นฐานมาจากการเรียนรู้ และธรรมชาติของเด็ก
ธรรมชาติของเด็กปฐมวัย
- สนใจ อยากรู้อยากเห็นสิ่งรอบๆตัว
- ช่างสงสัย ช่างซักถาม
- มีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ
- ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
- เลียนแบบคนรอบข้าง
2. การสอบภาษาแบบธรรมชาติ (Whole Language)
ทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อการสอนภาษาแบบธรรมชาติ
Dewey/ Piaget/ Vygotsky/ Haliday
- เด็กเรียนรู้ภาษาจากประสบการณ์และลงมือกระทำ
- เด็กเรียนรู้จากกิจกรรม การเคลื่อนไหวของตนเองและการได้สัมผัสจับต้องกับสิ่งต่างๆแล้วสร้างความรู้สึกขึ้นมาด้วยตนเอง
- อิทธฺพลของสังคมและบุคลอื่นๆมีผลต่อการเรียนรู้ภาษาของเด็ก
การสอนภาษาธรรมชาติ
- สอนแบบบูรณาการ/ องค์รวม
- สอนในสิ่งที่เด็กสนใจและมีความหมายสำหรับเด็ก
- สอนสิ่งใกล้ตัวเด็กและอยู่ในชีวิตประจำวัน
- สอนแทรกการฝึกการฟัง พูด อ่าน เขียน ไป พร้อมกับการทำกิจกรรม
- ไม่เข้มงวดกับการท่อง สะกด
- ไม่บังคับให้เด็กเขียน
หลักกการของการสอนภาษาแบบธรรมชาติ(นฤมน เนียมหอม 2540)
 1. การจัดสภาพแวดล้อม
- ตัวหนังสือที่ปรากฎในห้องเรียน จะต้องมีเป้าหมายในการใช้จริงๆ
- หนังสือที่ใช้ จะต้องเป็นหนังสือที่ใช้ภาษาที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัว
- เด็กมีส่วนในการจัดสภาพแวดล้อม
2. การสื่อสารที่มีความหมาย
- เด็กสื่อสารโดยมีพื้นฐานจากประสบการณ์จริง
- เด็กอ่านและเขียนอย่างมีจุดมุ้งหมาย
- เด็กได้ใข้เวลาในการอ่านและเขียนตามโอกาส
3. การเป็นแบบอย่าง
- ครูอ่านและเขียนโดยมีจุดมุ้งหมายในการใช้ในเด็กเห็น
- ครูเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กเห็นว่าการอ่านเป็นเรื่องสนุก
4. การตั้งความคาดหวัง
- ครูเชื่อมั้นว่าเด็กมีความสามารถในการอ่านและเขียน
- เด็กสามารถอ่าน เขียนได้ดีและถูกต้องยิ่งขึ้น
5. การคาดคะเน
- เด็กมีโอกาสที่จะทดลองกับภาษา
- เด็กได้คาดเดาหรือคาดคะเนคำที่จะอ่าน
- ไม่คาดหวังให้เด็กอ่านและเขียนได้เหมือนผุ้ใหญ่
6. การใช้ข้อมูลย้อนกลับ
- ตอบสนองความพยายามในการใช้ภาษาของเด็ก
- ยอมรับการอ่านและการเขียนของเด็ก
- ตอบสนองเด็กให้เหมาะสมกับสถานการณ์
7. การยอมรับนับถือ
- เด็กมีความแตกต่างระหว่างบุคคล
- เด็กได้เลือกกิจกรรมที่จะเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
- ในช่วงเวลาเดียวกันเด็กไม่จำเป็นต้องทำกิจกรรม อย่างเดียวกัน
- ไม่ทำกิจกรรมตามลำดับขั้นตอน
8.การสร้างความรู้สึกเชื่อมั้น
- ให้เด็กรู้สึกปลอดภัยที่จะใช้ภาษา
- ครูจะต้องทำให้เด็กไม่กลัวที่จะขอความช่วยเหลือ
- ไม่ตราหน้าเด็กที่ไม่มีความสามารถ
- เด็กมีความเชื่อมั้นว่าตนมีความสามารถ
ผู้ที่ถ่ายทอดความรู้
ผู้อำนวยความสะดวก
ผู้ร่วมทางการเรียนรู้ ไปพร้อมๆกับเด็ก
บทบาทครู
- ครูคาดหวังเด็กแต่ละคนแตกต่างกัน
- ใช้ประสบการณ์ตรงในการสนับสนุนในการอ่าน การเขียน
- ครุควรยอมรับกับความไม่ถูกต้องครบถ้วนของเด็ก
- ครูสร้างความสนใจในคำและสิ่งพิมพ์





วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บันทึกอนุทินครั้งที่ 5

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วันที่ 12 กรกฎาคม 2556
ครั้งที่ 5 เวลาเรียน 13.10 – 16.40 น.
เวลาเข้าสอน 13.10 น. เวลาเข้าเรียน 13.10 น. เวลาเลิก 16.40 น.

องค์ประกอบของภาษา
         1.        Phonology
ระบบเสียงของภาษา
-  เสียงที่มนุษย์เปล่งออกมาเพื่อสื่อความหมาย
-  หน่วยเสียงจะประกอบขึ้นเป็นคำในภาษา
         2.    Semantic
-ความหมายของภาษาและคำศัพท์
-  คำศัพท์บางคำสามารถมีได้หลากหลายความหมาย
- ความหมายเหมือนกันแต่ใช้คำศัพท์ต่างกัน
         3.    Syntax         
-ระบบไวยากรณ์
-การเรียงรูปประโยค
         4.    Pragmatic
-ระบบการนำไปใช้
-  ใช้ภาษาให้ถูกต้องตามสถานการณ์และกาลเทศะ
แนวความคิดนักการศึกษา
          1.     แนวคิดกลุ่มพฤติกรรมนิยม
       ทฤษฎีการเรียนรู้ของ Skinner
                -   สิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อพัฒนาการทางภาษา
                -   ให้ความสำคัญกับสิ่งเร้าและการตอบสนอง
ทฤษฎีการเรียนรู้ของ John B. Watson
               -   ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
               -   การวางเงื่อนไขพฤติกรรมเด็ก เป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ และผู้ใหญ่สามารถทีจะวางเงื่อนไขให้เด็กเกิดพฤติกรรม
นักพฤติกรรมนิยมเชื่อว่า
              -   ภาษาเป็นกระบวนการภายในของมนุษย์
              -   การเรียนภาษาเป็นผลจากการปรับพฤติกรรมโดยสิ่งแวดล้อม
              -   เด็กเกิดมาโดยมีศักยภาพในการเรียนรู้ภาษา
              -   เด็กจะสังเกตและเลียนแบบพฤติกรรม เมื่อปฏิสัมพันธ์
              -   เมื่อได้รับแรงเสริมจะทำให้เด็กเลียนแบบตัวแบบมากขึ้น
         2.    แนวคิดกลุ่มพัฒนาการทางสติปัญญา
       ทฤษฎีของ Piaget
             -   เด็กเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
             -   ภาษาเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นระดับพัฒนาการทางสติปัญญา
ทฤษฎีของ Vygotsky
            -   เด็กเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
            -   สังคม บุคคลรอบข้าง มีผลต่อการเรียนรู้ภาษาของเด็ก
            -   เน้นบทบาทของผู้ใหญ่
            -   ผู้ใหญ่ควรช่วยชี้แนะและขยายประสบการณ์ด้านภาษาของเด็ก
       3.    แนวคิดของกลุ่มที่เชื่อเรื่องความร่างกาย
ทฤษฎีของ Arnold Gesell
            -   เน้นความพร้อมด้านร่างกายในการใช้ภาษา
            -   ความพร้อม วุฒิภาวะของเด็กแต่ละคนไม่เท่ากัน
            -   เด็กบางคนอาจมีความพร้อมทางร่างกายในการใช้ภาษาได้เร็ว
            -   เด็กบางคนอาจมีปัญหาอวัยวะบางส่วนที่ใช้ภาษาในการสื่อสารบกพร่อง
      4.    แนวคิดของกลุ่มที่เชื่อว่าภาษาติดตัวมาตั้งแต่เกิด
ทฤษฎี Noam Chomsky
             -   ภาษาเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในตัวมนุษย์
             -   การเรียนรู้ภาษาขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะ
             -   มนุษย์เกิดมาโดยมีศักยภาพในการเรียนรู้ภาษามาตั้งแต่เกิด เรียกว่า LAD (Language Acquisition Device)
ทฤษฎีของ O. Hobart Mowrer
             -   คิดค้นทฤษฎีความพึงพอใจ
     ความสามารถในการฟังและเกิดความเพลิดเพลินจากการได้ยินเสียงผู้อื่น  และเสียงตัวเอง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการทางภาษา
       แนวทางในการจัดประสบการณ์
             -   เป็นสิ่งที่สะท้อนปรัชญาและความเชื่อของครูเกี่ยวกับการเรียนรู้ภาษาของเด็ก
             -   นำไปสู่การกำหนดกระบวนการที่ใช้อย่างแตกต่างกัน
Richard and Rodger (1995) ได้แบ่งมุมมองต่อภาษาในการจัดประสบการณ์ 3 กลุ่ม
            1.     มุมมองด้านโครงสร้างของภาษา
                   -   นำองค์ประกอบย่อยของภาษา มาใช้ในการสื่อความหมาย
                   -   เสียง ไวยากรณ์ การประกอบคำเป็นวลี หรือประโยค
            2.    มุมมองด้านหน้าที่ของภาษา
                   -   เชื่อว่าภาษาเป็นเครื่องมือสำหรับสื่อความหมาย
                   -   การจัดประสบการณ์เน้นการสื่อความหมาย
                   -   ไม่ได้ละทิ้งแบบแผนหรือไวยากรณ์
           3.    มุมมองด้านปฏิสัมพันธ์
                  -   เชื่อว่าภาษาเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม
                  -   การแลกเปลี่ยนประสบการณ์
                  -   เด็กมีปฏิสัมพันธ์ผ่านการใช้ภาษา